4 ตำนานวันไหว้พระจันทร์

เริ่มเข้าสู่ช่วงเดือนตุลาคม คงหนีไม่พ้นประเพณีของคนเชื้อสายจีนที่ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมานับพันปีอย่างประเพณี “การไหว้พระจันทร์”

น่าเหลือเชื่อที่ประเพณีไหว้พระจันทร์ ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลองและการแสดงความเคารพต่อพระจันทร์เท่านั้น ตำนานเล่าขานหลายเรื่องได้พูดถึงการไหว้พระจันทร์ไว้หลายรูปแบบ ทั้งการกอบกู้บ้านเมือง ความรัก ความฝัน และกระต่ายบนดวงจันทร์ แต่จะน่าสนใจขนาดไหน ลองอ่าน 4 ตำนานบรรพบุรุษชาวจีนกันได้เลย

1.ตำนานกอบกู้บ้านเมือง

เริ่มต้นเมื่อประมาณ 600 ปีก่อน สมัยปลายราชวงศ์หยวน  เจงกิสข่าน  จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งมองโกล เข้ายึดครองแผ่นดินใหญ่และปกครองชาวจีนอย่างเผด็จการ จนกลุ่มชาวจีนตั้งกลุ่มปฏิวัติ โดยเริ่มวางแผนสร้างกลอุบายจัดงานไหว้พระจันทร์ขึ้น และคิดค้นวิธี คือ ให้นำกระดาษเขียนข้อความ แล้วสอดไส้ไว้ในขนม เป็นการส่งสารให้แก่หมู่ชาวจีนด้วยกัน เรียกร้องให้ชาวจีนทุกคนลงมือสังหารทหารมองโกลที่ประจำอยู่ในบ้านของตน เพื่อก่อการปฏิวัติโดยพร้อมเพรียงกัน ณ วันเพ็ญเดือนแปด ทำให้สามารถโค่นล้มอำนาจการปกครองของมองโกลในที่สุด ชาวจีนจึงถือว่าวันเพ็ญเดือน 8 เป็นวันไหว้พระจันทร์และระลึกวีรชนท่กอบกู้ชาติเรื่อยมา


2.ตำนานความฝันของกษัตริย์

หรืออีกตำนานที่เล่าต่อกันมาว่าจริงๆแล้วประเพณีไหว้พระจันทร์ เกิดจากความฝันของกษัตริย์ถังหมิงหวง เมื่อกลางดึกของคืนเดือนเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 กษัตริย์ถังหมิงหวงบรรทมหลับไปแล้วทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์ และได้พบเทพธิดากำลังร่ายรำอยู่อย่างงดงาม จนเมื่อตืนขึ้นอยากให้ความฝันนั้นเป็นจริง จึงมีรับสั่งให้นางสนมแต่งตัวและร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาในฝัน

ตั้งแต่นั้นมาทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 พระองค์ก็รับสั่งให้จัดเครื่องเซ่นไหว้พระจันทร์ และทอดพระเนตรความงามของพระจันทร์ไปพร้อมกับการร่ายรำของนางสนมด้วย

3.ตำนานเทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์

มีเรื่องเล่าขานกันว่าสมัยก่อน โลกของเรามีดวงอาทิตย์อยู่ 10 ดวง ทำให้โลกมนุษย์เกิดแผ่นดินร้อนระอุ น้ำเหือดแห้ง ผู้คนไม่มีที่หลบซ่อนอาศัย ต่อมาได้ปรากฏวีรบุรุษนามว่า โฮ่วอี้ เป็นผู้ที่มีฝีมือในการยิงธนูได้แม่นยำ โดยสามารถยิงธนูขึ้นสู่ฟ้าเพียงดอกเดียว ถูกดวงอาทิตย์ถึงเก้าดวง ทำให้เหลือดวงอาทิตย์อยู่เพียงดวงเดียว(จนถึงปัจจุบัน)

ด้วยความดีนี้จึงได้รับการยกย่องให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่โฮ่วอี้เป็นกษัตริย์ที่ไม่ดีนักจึงถูกราษฎรโกรธแค้นชิงชัง จึงหนีขึ้นภูเขาเพื่อไปตามหายาอายุวัฒนะ แต่ ฉางเอ๋อ ภรรยากลัวว่าถ้าโฮ่วอี้กินเข้าไปจะสร้างความเดือดร้อนอีก จึงแอบกินยานั้นเสียเอง ทำให้ร่างของฉางเอ๋อเบาหวิว และลอยขึ้นไปสู่ดวงจันทร์

โฮ่วอี้รู้สึกเศร้าใจและอยากพบหน้ากับภรรยาเช่นเดิม ตอนกลางคืนของคืนวันนั้น วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ จึงได้เหม่อมองดูพระจันทร์เพื่อคิดถึงภรรยาของเขาที่อยู่บนท้องฟ้า

4.ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์

ตามตำนานเล่าไว้ว่า มีอยู่ปีหนึ่งในเมืองปักกิ่งเกิดโรคอหิวาระบาดหนัก เมื่อเทพธิดาฉางเอ๋อซึ่งอยู่บนดวงจันทร์ได้มองลงมาเห็น (ตามตำนานที่3)ก็ทำให้รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก จึงได้ส่งกระต่ายหยก ซึ่งเป็นบริวารให้ลงไปรักษาชาวบ้าน กระต่ายหยกแปลงกายเป็นหญิงสาวไปรักษาผู้คนให้หายจากโรค ชาวบ้านรู้สึกซาบซึ้งใจในความช่วยเหลือ จึงได้ตอบแทนด้วยการให้สิ่งของ แต่กระต่ายหยกก็ไม่ยอมรับสิ่งใดเลย เพียงแค่ขอยืมชุดชาวบ้านใส่เท่านั้น เพื่อมีชุดหลายแบบเข้าถึงชาวบ้านได้ทุกที่และสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น

หลังจากกำจัดโรคภัยให้ชาวเมืองเสร็จเรียบร้อย กระต่ายหยกก็กลับขึ้นไปยังดวงจันทร์ นับแต่นั้นมาชาวบ้านจึงได้กราบไหว้บูชาเทพเจ้ากระต่ายในวันไหว้พระจันทร์ด้วย

ในปัจจุบันเทศกาลไหว้พระจันทร์ ตามวัฒนธรรมจีนมีขึ้นในช่วงกลางของฤดูใบไม้ร่วง หรือ ช่วงเดือนกันยายน ถึง ตุลาคม เป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว และจัดขึ้นในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ นอกจากนี้ ชาวจีนยังถือว่า วันไหว้พระจันทร์ เป็นวันที่คนในครอบครัวจะได้แสดงความสามัคคีกัน และ “วันแห่งการอยู่พร้อมหน้าของครอบครัว” อีกด้วย

อย่างไรก็ตามตำนานเหล่านี้ถือเป็นเพียงหนึ่งในความเชื่อเท่านั้น หากมีตำนานเรื่องเล่าหรือตำนานของประเพณีอื่นๆ ที่น่าสนใจ จะหยิบมาเล่าสู่กันฟัง….

 

ขอบคุณข้อมูล dailynewssujipulikapooksanook  

ติดตามข่าวสารจาก หมีสาระ

Facebook : www.facebook.com/mheesaradotcom/

Twitter : https://twitter.com/mheesara

 

บทความที่เกี่ยวข้อง