แชร์ประสบการณ์ ‘ตู่’ ปิยวดี ป่วยไทรอยด์บกพร่องแบบอ้วน

[accordion]เรารู้จักคุณตู่ ปิยวดี จากนามสกุลมาลีนนท์ และการเป็นผู้จัดละครแนวน่ารักคอมมาดี้ ที่กวาดเรตติ้งให้กับช่อง 3 อยู่หลายเรื่อง และหากใครติดตามอินสตราแกรมของเธอ ก็จะรู้ว่าเธอเป็นสาวนักชิมและรักการออกกำลังกาย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา…หากเธอไม่ป่วยเป็น “ไทรอยด์บกพร่องชั่วคราวแบบอ้วน” เมื่อการออกกำลังกายไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อโรคไทรอยด์กำลังจะพรากหุ่นเฟิร์มของเธอไป เธอจะสู้อย่างไร…

เราจึงขออนุญาตแชร์ประสบการณ์นี้ เพื่อเป็นประโยชน์ของผู้อ่านต่อไป[/accordion]

รู้ว่าตัวเองป่วยตอนไหน ?

สืบเนื่องจากการเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคไวรัสลงกระเพาะ จึงได้มีโอกาสสอบถามหมอถึงผลตรวจเลือด ที่มีค่าไทรอยด์ที่ผิดปกติต่างจากครั้งแรก หมอทางด้านทางเดินอาหาร จึงส่งต่อเคสไปยังหมอทางด้านต่อมไร้ท่อ เพื่ออธิบายที่มาที่ไปของความผิดปกติครั้งนี้

หลังจากหมออ่านผลตรวจเลือดทั้งหมด จึงรู้ว่าเป็นภาวะไทรอยด์บกพร่องแต่ต้องตรวจค่าเลือดเพิ่มเติม เพื่อจะได้ทราบว่าเป็นไทรอยด์ประเภทไหน อาจจะเป็นไทรอยด์บกพร่องถาวรแต่แฝงอยู่ แล้วเพิ่งมีผลกับร่างกายในตอนนี้ หรือเป็นแค่ไทรอยด์บกพร่องชั่วคราว หลังจากที่รอผลตรวจสรุปว่าเป็น “ไทรอยด์บกพร่องชั่วคราวแบบอ้วน”

 

“ไทรอยด์บกพร่องชั่วคราวแบบอ้วน” มีผลกับร่างกายอย่างไร ?

นอกจากอาการป่วยที่ต้องกังวลแล้ว ไทรอยด์นี้ ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง “20 กิโลกรัม” หรือเกือบ ครึ่ง ของน้ำหนักตัว ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 48 เป็น 49 ,50 ,51 ,52, 53 และปัจจุบันคือ 54 สัดส่วนก็เพิ่มขึ้น จากเอว 23 เป็น 25 สะโพก 34 เป็น 36

จากที่ไม่เคยเปลี่ยนไซด์เสื้อผ้า ชุดที่ใส่ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็ใส่ได้มาตลอด จนมาวันนี้ต้องรื้อตู้เสื้อผ้า ทยอยเอาไปให้คนอื่นใส่แทนแล้วเป็นร้อยตัว เวลาออกกำลังกาย trainer จะให้ใส่ชุดออกกำลังกายแบบ sport bra เพื่อที่จะได้เห็นว่า ท่าที่เราทำนั้น มันโดนกล้ามเนื้อถูกส่วน แต่ตอนนี้หมดความมั่นใจที่จะใส่ เลยเปลี่ยนมาใส่เป็นแบบ tank top แทน น้ำหนักเพิ่มทำให้กังวลใจหนักมาก และพยายามคิดหาที่มาของความอ้วน หรืออาจเกิดจากอายุเพิ่มขึ้น เผาผลาญไม่ดีเท่าเดิม จึงเข้าคลาส body combat ต่อด้วยเดินเครื่อง elliptical อีก 60นาที ทำทุกวันวนไป วันไหนไม่ว่างไปฟิตเนส ก็วิ่งที่บ้าน ดึกแค่ไหนก็วิ่ง 4-5ทุ่ม ไม่มีเกี่ยง ทำไปสักพักใหญ่ น้ำหนักไม่ลดเลย แถมเพิ่มขึ้นมาทีละขีดสองขีดเรื่อยไป แต่ก็ไม่ยอมแพ้ เข้าครอส body pump เล่นกล้ามสร้างกล้ามเนื้อเพิ่ม เพราะกล้ามเนื้อทุกมัดต้องใช้พลังงาน

แต่ผลที่ได้ก็คือ เหมือนเดิม น้ำหนักไม่ลดแถมเพิ่ม เพื่อนบางคนบอกว่าเป็นน้ำหนักกล้ามเนื้อรึเปล่า แต่เรารู้ตัวเองดี ว่าไม่ใช่ เพราะกระโปรงเอว24ที่เคยใส่ได้ ใส่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จากเป็นคนไม่มีพุง ก็เริ่มมีมาให้รำคาญใจ

“ไทรอยด์บกพร่องชั่วคราวแบบอ้วน” เกิดจากอะไร ?

หมอบอกว่าสาเหตุที่เป็น “ไทรอยด์บกพร่องชั่วคราวแบบอ้วน” เกิดจากภาวะขาดโปรตีนติดต่อกันมายาวนานกว่าสิบปี

เราตรวจเลือดทุกปีอยู่แล้ว รู้มาตลอดว่าตัวเองเป็นภาวะขาดโปรตีน แต่ด้วยความที่ภาวะนี้ไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรมากมาย จึงไม่สนใจ กินไม่เลือก กินอะไรที่อยากกิน ไม่ได้คำนึงถึงหลักโภชนาการใดๆทั้งสิ้น อาหารประเภทแป้ง พาสต้า พิซซ่า นี่คือของโปรด เป็นคนกินเนื้อสัตว์น้อยมาก

 

แล้วอาหารที่กิน เกี่ยวอะไรกับการขาดโปรตีน ?

ขออธิบายแบบชาวบ้าน เพื่อให้เข้าใจง่ายๆนะคะ ไม่ถนัดภาษาหมอ เราว่าร่างกายมันฉลาด มันรู้ว่ามันขาดโปรตีน ขาดต่อเนื่องสะสมไปเรื่อยๆ จนวันนึง มันมาคิดได้ว่า เอ้ย! ถ้าเราขาด เราก็ต้องเผาผลาญให้น้อยลงสิ เราจะได้ไม่ขาดไงล่ะ มันก็เลยไปบอกไทรอยด์ที่ควบคุมการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานน้อยลง เวลา burn burn burn ทั้งวิ่ง ทั้งต่อยมวย สมมุติว่าน่าจะเผาแคลอรี่ไปสัก 1000 Cal. แต่ร่างกายมันบอก “ไม่” จะเผาพลาญแค่ 300 Cal. ก็พอ ก่อนที่จะะขาดโปรตีน ผลที่เห็นได้ชัด ก็คือ กินน้อยลง หมั่นออกกำลังแบบสม่ำเสมอ แต่ไม่ผอมลงเลย แถมอ้วนอีกต่างหาก

จัดการกับอาการป่วยยังไง ?

แนวทางการรักษา ต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ ทำให้โปรตีนมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานให้ได้ บางคนอาจคิดว่าไม่ยาก แต่จริงมันก็ไม่ง่าย เพราะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ที่เคยชินมาเกือบ40ปีใหม่หมด ต้องควบคุมปริมาณโปรตีนให้เพียงพอต่อร่างกาย

โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใหญ่ควรได้รับโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัมต่อวัน จึงจะเพียงพอ เพิ่งมาตระหนักถึงความสำคัญของการกินอาหารให้ครบ5หมู่ ที่ครูพร่ำสอนสมัยเด็กๆ ก็วันนี้เอง

 

ทำไมถึงโพสต์รูปแชร์ประสบการณ์ ?

คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับเรา และมันน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่น จึงอยากแชร์และฝากถึงคนที่กำลังป่วยหรือคนทั่วไป อยากให้ทุกคนตรวจเลือดเป็นประจำทุกปี อย่าละเลย เมื่ออาการผิดปกติเกิดขึ้น จะได้รักษาทันและให้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ถึงคำจะฟังดูโบราณ แต่มันคือเรื่องจริงที่ดีต่อสุขภาพ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

IG :https://www.instagram.com/tu_piyawadee/

 

ติดตามข่าวสารจาก หมีสาระ

Facebook : www.facebook.com/mheesaradotcom/

Twitter : https://twitter.com/mheesara

 

บทความที่เกี่ยวข้อง