กักตัวอยู่บ้าน หนีโควิด แอปดูหนังเจ้าไหนคุ้มสุด

ช่วงกักตัวแบบนี้ หมีสาระเอาแพลตฟอร์มดูหนังออนไลน์มาเทียบให้ทุกคนเลือกถึง 9 แอป บางครั้งนอนอยู่บ้านเฉยๆ ก็คงอยากมีโมเม้นออกไป ดูหนังซักเรื่อง หรือหาอะไรทำแก้เบื่อ หมีสาระรวมแอปดูหนังตั้งแต่ ราคา จุดเด่น จุดด้อยของแต่ละเจ้ามาให้แล้ว

แอปดูหนัง สมัครเจ้าไหนดี

Netflix  ออริจันัลซีรีส์ระดับคุณภาพ!

ราคาแพ็กเกจ

• พื้นฐาน ราคา 280 บาท/เดือน ต่อ 1 คน
• มาตรฐานHD ราคา 350 บาท/เดือน ต่อ 2 คน
• พรีเมี่ยมUltra HD ราคา 420 บาท/เดือน ต่อ 4 คน

จุดเด่น

• มีภาพยนตร์ใหม่ ซีรีส์ใหม่ทุกเดือน
• ซีรีส์ใหม่ ปล่อยทุกตอนรวดเดียว
• มี Original Netflix ซีรีส์
• โหลดเก็บไว้ดูได้ทุกแพคเกจ

จุดด้อย

• ซีรีส์ที่เป็นซีซั่นจากค่ายลิขสิทธิ์ ลง Netflix ล่าช้า
• คอนเทนต์ที่หมดอายุถาวร ไม่สามารถหาดูได้

เหมาะกับสายซีรีส์เกาหลีและฝรั่งทุกประเภท

Iflix ซีรีส์ฝรั่งมากที่สุดของทุกแพลตฟอร์มในไทย

ราคาแพ็กเกจ

• แบบรายเดือน ราคา 100 บาท/เดือน ต่อ 5 คน ใช้พร้อมกันได้ 2 เครื่อง
• แบบรายปี ราคา 1,000 บาท/ปี ต่อ 5 คน ใช้พร้อมกันได้ 2 เครื่อง

จุดเด่น

• มีคอนเทนต์บางส่วนดูฟรี
• ชมภาพยนตร์-ซีรีส์ ในแบบ HD
• รองรับการชมบนคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและทีวี
• โหลดเก็บไว้ดูได้ทุกแพคเกจ

จุดด้อย

• ไม่มีภาพยนตร์ใหม่เพิ่งออกจากโรงภาพยนตร์ให้บริการ
• ยังไม่รองรับ Apple TV อย่างสมบูรณ์
• ไม่มีพากย์ไทย เน้นซับไตเติ้ลไทยและอังกฤษ

เหมาะกับสายซีรีส์อเมริกาและเอเชีย

Mono Max เอาใจคอหนังเก่า ดู Mono ออนไลน์ได้

ราคาแพ็กเกจ

• แบบรายเดือน ราคา 250 บาท/เดือน ต่อ 5 คน
• แบบรายปี ราคา 2,500 บาท/ปี ต่อ 5 คน

จุดเด่น

• ซีรีส์เอเชียหลากหลาย
• มีพากย์ไทย และบรรยายไทย
• มีภาพยนตร์ Blockbluster ให้บริการเพิ่มมากขึ้น

จุดด้อย

• ภาพยนตร์มีค่อนข้างน้อย และเก่า
• ไม่ค่อยมีรายการวาไรตี้

เหมาะกับสายภาพยนตร์ ซีรีส์ฝรั่งเก่าๆ/สายซีรีส์เอเชีย ซีรีส์จีน

HOOQ แพลตฟอร์มเอาใจคอภาพยนตร์ไทย

ราคาแพ็กเกจ

• แพ็กเกจดูหนัง VIP รายสัปดาห์ 45 บาท/สัปดาห์ ต่อ 5 คน
• แพ็กเกจดูหนัง VIP รายเดือน ราคา 119 บาท/เดือน ต่อ 5 คน

จุดเด่น

• ภาพยนตร์บางเรื่องต้อง “เช่า” นอกเหนือจากราคาสมาชิกที่จ่าย
• เหมาะกับ สายภาพยนตร์ไทย/สายฟรีทีวี ข่าว วาไรตี้

จุดด้อย

• ภาพยนตร์บางเรื่องต้อง “เช่า” นอกเหนือจากราคาสมาชิกที่จ่าย

เหมาะกับสายภาพยนตร์ไทย/สายฟรีทีวี ข่าว วาไรตี้

Hollywood TV  รวมภาพยนตร์ถูกลิขสิทธิ์ระดับโลก

ราคาแพ็กเกจ

• Movie Pass 1 เดือน ราคา 199 บาท/เดือน
• Movie Pass 6 เดือน ราคา 1,170 บาท/ครึ่งปี
• Movie Pass รายปี ราคา 2,280 บาท/ปี

จุดเด่น

• มีหนังครบทุกความต้องการหลายพันเรื่อง ทั้งหนังฮอลลีวูด ไทย จีน ซีรีส์ และการ์ตูน
• เสียงพากย์และคำบรรยายไทย
• บริการเลือกซื้อเฉพาะเรื่อง

จุดด้อย

• ภาพยนตร์ใหม่ต้องซื้อขาด บางเรื่องไม่รวมในราคาสมาชิก

เหมาะกับสายภาพยนตร์ทุกประเภท

Flixer รวมทุกความบันเทิงส่งตรงจากญี่ปุ่น

ราคาแพ็กเกจ

• แพ็กเกจรายเดือน 89 บาท/เดือน
• แพ็กเกจรายปี 899 บาท/ปี

จุดเด่น

• รวมรายการวาไรตี้ ละคร อนิเมะ ของญี่ปุ่น
• กดดูคอนเทนต์ที่ดูค้างไว้ต่อได้
• ใช้งานได้บน สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และทีวี ผ่าน Airplay

จุดด้อย

• ไม่มีภาพยนตร์ หรือซีรีส์ของประเทศอื่นนอกจากญี่ปุ่น

เหมาะกับสายอนิเมะญี่ปุ่น

VIU ที่สุดของสายซีรีส์เกาหลี จีน ไต้หวัน

ราคาแพ็กเกจ

• ฟรี
• แพ็กเกจรายเดือน 119 บาท/เดือน ใช้ได้ 3 คน

จุดเด่น

• มีซีรีส์เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ไทย หรือรายการทีวีหลากหลาย
• อัพเดทซีรีส์หลังจากวันออนแอร์ 1 วัน พร้อมซับไทย
• แบ่งหมวดหมู่ ค้นหาได้ง่าย

จุดด้อย

• แบบฟรีจะต้องรอซีรีส์ตอนใหม่ หลังจากวันออนแอร์ 3 วัน
• โฆษณาคั่นเยอะสำหรับคนที่ใช้งานฟรี

เหมาะกับสายซีรีส์เอเชีย 

Youtube Premium ร้โฆษณากวนใจ คลังวิดีโอที่ใหญ่ที่สุด

ราคาแพ็กเกจสำหรับผู้ใช้ Android

• YouTube Premium(แบบรายบุคคล) ราคา 159 บาท / เดือน
• YouTube Premiumแบบ Family ราคา 239 บาท/เดือน ใช้ได้ 5 คน

ราคาแพ็กเกจสำหรับผู้ใช้ IOS

• YouTube Premium(แบบรายบุคคล) ราคา 209 บาท / เดือน
• YouTube Premiumแบบ Family ราคา 309 บาท/เดือน ใช้ได้ 5 คน

จุดเด่น

• ดู Youtube แบบไม่มีโฆษณา
• มี Original Content ของทาง Youtube ทั้งซีรี่ย์และสารคดี
• ใช้บริการ Youtube Music ได้แต่ต้องโหลดแอพแยก

จุดด้อย

• ราคาไม่เท่ากันระหว่างสองระบบ Andriod และ IOS
• Original Content ยังสู้สตรีมมิ่งเจ้าอื่นไม่ได้

เหมาะกับ สายฟังเพลง ดูรายการ/สาย entertainment

DOONEE เอาใจสายซีรีส์ตะวันตก

ราคาแพ็กเกจ

• แพ็กเกจรายวัน 9 บาท / วัน ใช้ได้ 1 คน
• แพ็กเกจรายเดือน 150 บาท / เดือน ใช้ได้ 5 คน
• แพ็กเกจรายปี 1,500 บาท / วัน ใช้ได้ 5 คน

จุดเด่น

• เลือกได้ทั้งพากษ์ไทย และซับไทย
• ดูได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต
• ชำระค่าบริการได้หลายช่องทาง

จุดด้อย

• มี History ให้ดูเรื่องล่าสุดได้ แต่ยังไม่ระบุตอนล่าสุดที่ดู

เหมาะกับสายภาพยนตร์ทุกประเภท

เป็นอย่างไรกันบ้าง บทความนี้เอาใจสายดูหนังเป็นพิเศษ ช่วงกักตัวอยู่บ้านแบบนี้คอหนังหลายคนคงกำลังมีแผนจะเก็บลิสต์หนังที่ตัวเองติดค้างไว้ หรือใครหลายคนอาจจะกำลังมีแผนจะสมัครแอปดูหนังแต่กำลังลังเลว่าจะสมัครที่ไหน บทความนี้คงช่วยได้เยอะเลย ขอให้สนุกกับการดูหนังนะครับ