Line Taxi สู่ภารกิจเบอร์ 1 Mobile Portal

หากจะบอกว่าแอพลิเคชั่น Line กำลังจะมาครอบงำการใช้งานของคนไทยอยู่ในเวลานี้ก็คงจะไม่ผิดนัก กับการแถลงข่าวล่าสุดที่เตรียมตัวเปิด “Line TAXI” บริการเรียกรถแท็กซี่ในเมืองไทยที่เข้าชิงส่วนแบ่งกับผู้เล่นรายเดิมอย่าง Grab และ Urber

เป็นอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วกับพฤติกรรมการใช้งานของคนไทยในเวลานี้ที่นิยมใช้แอฟพลิเคชั่น Line ในการสื่อสารกันอย่างมาก ซึ่งมากจนติดอันดับผู้ใช้งานสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก ทำให้ Line มองหาโอกาสใหม่ๆในการสร้างความใกล้ชิดและเติมเต็มการใช้งานให้กับผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ

ดั่งจะเห็นตั้งแต่เปิดตัว Line Chat ซึ่งมาพร้อมกับ Sticker ที่หลากหลายจนทำให้คนติดกันจำนวนมาก จนถึงเกมส์ต่างๆที่เกิดขึ้นเช่น เกมเศรษฐี ไปจนถึง LINE TV ที่ดึงคอนเท้นต์รายการและซีรีส์ดังจำนวนไม่น้อยเข้าไปอยู่ใน Line ได้

ไม่เพียงเท่านี้ยังเปิดตัว Line Man ที่มีสร้างความสะดวกให้กับคนจำนวนมากกับการสั่งอาหารจากร้านอาหารทั่วๆไปและส่งถึงที่ได้นั่นเอง และมากไปกว่านั่น Line Man ที่เริ่มต้นจาก สั่งซื้ออาหาร (Food Delivery) และปัจจุบันครอบคลุมถึงแมสเซนเจอร์ (Messenger) สั่งของสะดวกซื้อ (Convenience Goods) และส่งพัสดุ (Postal) อีกด้วย

เปิดตัว Line Taxi

การผนึกกำลังกับเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพฯ ถือเป็นการร่วมมือกันที่น่าสนใจอย่างมาก ที่จะดึงคนขับกว่า 60,000 คนเข้าสู่ Platform ของตัวเอง พร้อมกับการเข้าเงื่อนไขที่แบรนด์ดังอย่าง Uber ยังติดปัญหานั่นคือ “ถูกกฏหมาย” นั่นเอง

บิ๊กบอสไลน์ ประเทศไทย “นายอริยะ พนมยงค์” กล่าวว่า “คนขับแท็กซี่ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) ซึ่ง LINE และ เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ เขตกรุงเทพมหานคร มีจุดมุ่งหมายที่จะร่วมพัฒนาแท็กซี่ไทยให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเรามองว่าเทคโนโลยี ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก แต่กลับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่ในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยต้องการชีวิตที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และปลอดภัย เราจึงตั้งเป้าในการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด”

เหนือกว่า พร้อมท้าชน

แน่นอนว่าการเปิดตัว Line Taxi ที่เป็นแอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสาร Taxi ของ Line Taxi นั่นไม่ใช่รายแรกที่เกิดขึ้นในไทย แต่เป็นการตามหลัง Grab Taxi, All Thai Taxi รวมไปถึง Uber แต่การเข้ามาของ Line Taxi นั้นถือเป็นการมาที่พร้อมแซงคู่แข่งได้อย่างรวดเร็ว โดยมีฐานผู้ใช้งานไลน์เดิมอยู่แล้วกว่า 50 ล้านยูสเซอร์ จึงเป็นข้อได้เปรียบที่ไม่มีคู่แข่งรายไหนมีความพร้อมนี้

มุ่งสู่ Mobile Portal เบอร์หนึ่งแบบไร้คู่แข่ง

หากจะกล่าวว่าการเป็นเบอร์ 1 แบบไร้คู่แข่งก็จะดูเกินจริง เพราะการเปิดตัวบริการใหม่ของ Line ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังมักเป็นการ “ดึง” พาร์ทเนอร์ที่มีความแข็งแกร่งในด้านนั้นๆเข้ามาอยู่ร่วมอยู่บ่อยครั้ง อาทิเช่น การร่วมมือกับ Wongnai (ที่เชี่ยวชาญและมีข้อมูลด้านร้านอาหารมากที่สุดในประเทศ) และ Lalamove (ที่เป็นผุ้ให้บริการแมสเซนเจอร์หรือรับส่งเอกสาร) สู่การบริการ Line Man เป็นต้น

ครั้งนี้ก็เช่นกัน การดึงพันธมิตรที่มีฐานที่แข็งแกร่งอยู่แล้วอย่างเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่กรุงเทพฯ จึงทำให้เกิด Line Taxi ขึ้นในนั่นเอง และการดึงเครือข่ายที่มีฐานคนขับที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯครั้งนี้ แน่นอนว่ากระทบกับผู้ให้บริการหน้าเดิมอย่าง Grab Taxi, All Thai Taxi อย่างเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง

บทสรุป Online 2 Offline

ถือเป็นอีกหนึ่งบริการที่ใช้แนวคิด Online 2 Offline อีกครั้งของ Line Application ซึ่งเป็นโจทย์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งที่น่าสนใจยิ่ง กับภารกิจที่จะทำลายปัญหาเดิมๆของแท๊กซี่ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เช่น รถติด,เติมแก๊ส,ส่งรถ เป็นต้น

ลองดูกันว่ากับเทคโนโลยีที่มาเติมเต็มให้กับคนขับและผู้โดยสาร จะทลายปัญหาเดิมๆให้หมดลงได้หรือไม่ งานนี้หากระบบออกแบบมาดี แต่สุดท้ายมีฝั่งนึงไม่ปรับตัวเข้าหา ก็จบลงด้วยคำตอบเดิมๆ

ส่งรถครับเพ่!!