ดาร์ท (ธนทร ศิริรักษ์) – นักพากย์เสียงโฆษณา

คุณดาร์ท ธนทร ศิริรักษ์ นักพากย์โฆษณา เสียงหล่อ หน้าเป๊ะ กับเส้นทางอาชีพของเขา จุดเริ่มต้นของการเดินเข้าสู่วงการพากย์เสียงของคุณดาร์ท เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร มาหาคำตอบและมาทำความรู้จักกับอาชีพนักพากย์เสียงกันดีกว่าว่าใครสามารถทำได้บ้าง ?

รู้จัก “ดาร์ท ธนทร ศิริรักษ์”

ชื่อธนทร ศิริรักษ์ ชื่อเล่นชื่อดาร์ท เป็นนักพากย์เสียงโฆษณาครับ

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักพากย์เสียงโฆษณา

เมื่อประมาน 10 ปีที่เเล้วตอนนั้นเพิ่งจบใหม่ๆ ทำงานเป็นผู้ช่วยนักตัดต่อ เเล้วเขากำลังตัดโฆษณาอยู่ พี่เขาก็บอก “เฮ้ยดาร์ทช่วยลงเสียงเป็นไกด์ให้พี่หน่อย” เพื่อเป็นเดโม่เอาไปขายลูกค้า ผมก็เลยไปลงให้เขา พอลงเสร็จ ลูกค้ามาฟัง เขาก็โอเคและก็ถามว่าอันนี้อัดอะเน้าท์เซอร์มาด้วยเเล้วหรอ ทางทีมก็บอกว่ายังครับ อันนี้เป็นไกด์เสียง แต่ทางลูกค้าเขาชอบแล้ว เขาก็เลยบอกงั้นเอาเสียงเราเป็นเสียงพากย์จริงเลย อันนั้นก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักกับอาชีพนี้

ตั้งใจจะเป็นนักพากย์เสียงโฆษณาตั้งเเต่เเรกเลยไหม

คือจริงๆ ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักอาชีพนี้ก็เลยยังไม่อยากทำ เเต่พอได้ช่วยเเล้วก็รู้สึกชอบ แล้วเราก็อยากทำอาชีพนี้ตลอดไป

พากย์เสียงครั้งเเรกรู้สึกอย่างไรบ้าง

คือตอนที่ทำเดโม่เราไปอัดของเราอยู่คนเดียวผ่านมือถือ เเต่ว่าพอต้องไปอัดจริงๆ ที่เขาต้องเอาไปใช้งานจริงๆ รู้สึกตื่นเต้น รู้สึกว่ายาก คือมันยากเพราะว่ามันมีคนมามองเราตลอด เเบบจากห้องเสียงก็มองมาที่เรา ตอนที่เราอัดจริงๆ เขาไม่ได้มองหรอกเรารู้สึกไปเองว่าเขามองก็เลยรู้สึกไปเองว่ามันยากอะไรแบบนี้ครับ

งานที่ยากที่สุดตั้งเเต่พากย์เสียงมาคืองานอะไร

งานเเรกก็คือเป็นงานของทรูอินเตอร์เน็ตครับผม คือคิวของนักอ่านสปอตโฆษณาเนี่ย เขาจะให้คิวทั้งหมด 2 ชั่วโมงต่อ 1 คิว ต่อ 1 งานโดยประมาณก็จะได้ 2 ชั่วโมง ผมใช้เต็มเวลาเลย 2 ชั่วโมง คือปกติเเล้วเวลาเราไปอ่านเนี่ยชั่วโมงนึงก็เสร็จเเล้วเเหละ เเต่ว่างานเเรกคือผมใช้เต็มเลยก็คือ 2 ชั่วโมง

อ่านเท่าไรก็ไม่ผ่านสักทีอารมณ์มันไม่ได้ ผู้กำกับเขาจะบอกว่าโอเค อย่างวันนั้นที่ผมไปอ่านเนี่ยมันเป็นอารมณ์ออกเเนวเเอบบทสนทนานิดนึงเเต่ว่าต้องมีความขายของหน่อย พอมันเป็นอะไรครึ่งๆ กลางๆ มันก็เลยยากมากเเล้วยิ่งเป็นงานเเรกด้วย ผู้กำกับเขาก็บอกว่า ยังไม่ได้เลย ลูกค้าก็บอกยังไม่ชอบ ก็เลยยังไม่ผ่านสักที ผมก็ตื่นเต้นมากเพราะตอนนั้นเหมือนเเบบที่ทำงานตอนนั้นที่ทำเขาถือ Account นี้ก็ทำกับทรูไปเลย ก็เลยได้ทำ

ทำพากย์เสียงโฆษณามากี่ปีเเล้ว

ประมาณ 3-4 ปีเเล้วมั้งครับ ตอนนั้นทำควบคู่กับงานประจำไปด้วยตอนนั้นเป็น sound engineer เเล้วก็ทำอันนี้ไปด้วยอะไรอย่างงี้ครับ

ความจริงอาชีพนี้มีมานานมากๆ เเล้วครับ แต่คนไม่ค่อยรู้เพราะว่าเวลาเราดูโฆษณาเราก็จะสนใจเเต่สินค้าสนใจเเต่เเบรนด์ เราไม่ทันสังเกตหรอกว่ามันมีเสียงคนพูดอยู่ข้างหลังด้วย มันก็เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าคนไม่รู้จักอาชีพนี้

หลังจากมีกระเเสคลิป TikTok มีอะไรเปลี่ยนเเปลงไปบ้าง

จริงๆ เเล้วงานมันก็มาเรื่อยๆ ของมันอยู่เเล้ว ตัวห้องเสียงที่ส่งเสียงเรา เขาก็ยังส่งเสียงเราเป็นปกติอยู่เเล้ว เเต่ว่ามันก็จะมีนิดนึงที่เเบบว่าลูกค้าส่งเสียงเราให้ทางห้องเสียงเลยว่าอยากได้เสียงคนนี้ มันก็อาจจะมีเพิ่มขึ้นมานิดนึงเเต่ว่ามันจะมี ไอที่เพิ่มขึ้นมาจริงๆ มันจะเป็นงานอื่นมากกว่าพวกงานเเบบ influencer อะไรเเบบนี้ มันก็จะเข้ามาเยอะขึ้น งานอื่นก็จะมีเยอะขึ้น งานเเปลกๆ ก็จะมีเยอะขึ้น

ต้องเรียนอะไรมาถึงจะเป็นนักพากย์เสียงได้

คือจริงๆ เเล้วไม่ต้องเรียนอะไรเลยก็เป็นได้ คือผมว่ามันเหมือนกับ มันเป็นสกิลที่เราต้องฝึกเองมากกว่ามันไม่มีโรงเรียนสอน วิธีของผมก็คือถ้าสมมติมันมีพวกโฆษณาที่เราสามารถกด skip ได้ใน youtube ผมก็จะไม่กด ผมก็จะอ่านตามที่ผมได้ยินที่เขาอ่านจริงๆ นะ ผมก็จะลองดูเพื่อได้เทคนิคอะไรใหม่ๆ หรือว่าเวลาเราขับรถอะไรอย่างเงี่ย
เห็นบิลบอร์ดถ้ามันไม่อันตรายเกินไปอะนะผมก็จะอ่านตามป้ายจนเเฟนผมเเบบทักมาว่าจะอ่านทุกป้ายเลยใช่ไหม คือจริงๆ มันเหมือนกับมันเป็นการฝึกซ้อมอะเนอะผมก็เลยใช่ จะอ่านทุกป้าย

อาชีพนักพากย์สามารถทำเป็นอาชีพหลักเลยได้ไหม

ได้ครับ เพราะผมก็ทำอยู่ ตอนเเรกจริงๆ เเล้วมีความสงสัยในตัวเองเหมือนกันว่าเราจะสามารถทำให้มันเป็นอาชีพหลักได้ไหม เเต่ว่าพอเอาเข้าจริงๆ มันทำได้เพราะว่าพอเสียงเรามันติดตลาดเเล้วสักนิดนึงเนี่ยทำไปเรื่อยๆ อะไรอย่างเงี่ย เเล้วมันมีคนใช้เสียงเราเรื่อยๆเขาก็จะคุ้นเสียงเรา พอเขาคุ้นเสียงเรา เขาก็จะใช้เสียงเรามากขึ้นมันก็มีโอกาสที่เขาจะเลือกเสียงเรามากขึ้น ก็อย่างที่บอกไปตอนเเรกว่าเขาจะต้องเลือกเสียงเรากับอีกสามสี่คนใช่ไหม พอเขาคุ้นเสียงเนี่ย เขาก็จะอยากใช้เสียงเรามากขึ้น

การพากย์เสียงมีกี่เเบบ

จริงๆ เเล้วอย่างที่บอกไปการอ่านสปอตโฆษณามันก็ไม่เชิงว่าเป็นการพากย์เสียง เพราะว่าพอเราพูดว่าพากย์เสียงเนี่ยมันเหมือนเป็นการพูดเเทนคาแรคเตอร์สักตัวนึง เป็นพากย์หนังหรือพากย์การ์ตูน

เเต่ว่าสำหรับโฆษณาเนี่ย มันเป็นการอย่างที่บอกมันเป็นการอ่านมากกว่าก็เลยอย่างที่บอกว่า ผมเรียกมันว่าการอ่านสปอตโฆษณามากกว่า เเต่ถ้าพูดเรื่องพากย์ มันใช่พากย์หนัง พากย์โฆษณามันสามารถเเบ่งได้

ผมบอกกับตัวเองด้วยซ้ำว่า การพากย์หนัง พากย์การ์ตูนเนี่ยเหมือนเป็นอีกศาสตร์นึงเลยอะ ซึ่งยากมาก คือรู้สึกประทับใจเเล้วก็ชื่นชมคนที่เขาเขาทำอาชีพด้านนั้นอะครับ หมือนจะเป็นอาชีพเดียวกันเเต่มันคนละอาชีพรู้สึกประทับใจเหมือนกัน รู้สึกว่าเออเก่งอะ เพราะว่าเราก็คุ้นเคยกับการฟังพวกพันธมิตรหรืออะไรอย่างเงี่ยมาตั้งเเต่เด็กใช่มั้ย เรารู้สึกว่าเราก็พยายามทำตามนะเเต่ว่ามันไม่ง่ายว่ะอันเนี่ยไม่ใช่สิ่งที่ทำตามได้เลย

ทำไมถึงเลือกพากย์เสียงโฆษณา

เพราะว่ามันเหมือนกับเวลาเราทำอะไรสักอย่างนึงเนี่ยเเล้วเราชอบมันมากๆ เราก็อยากจะอยู่กับมันไปตลอด คือเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่กับมันไปตลอดชีวิตอะไรอย่างเนี่ยอะครับ ก็เลยรู้สึกว่านี้เเหละอาชีพที่เราอยากจะทำ ผมก็เลยออกจากงานประจำมาทำเพราะผมรู้ว่าผมอยากจะใช้เวลากับมันให้ได้มากที่สุด

ความยากของการพากย์เสียงโฆษณาคืออะไร

ทำให้โดนใจลูกค้า คือทำให้ลูกค้าชอบคือจริงๆ เเล้วเวลาเราเข้าห้องเสียงไปเราไปอัดเสียงอะ เราอ่านสคริปเราดูภาพเราดูหนังโฆษณาเเล้วอะเรามี tone ของเราในหัวเเล้ว เรารู้ว่าเราอยากจะอ่านเเบบไหน เเต่ไอ tone ที่อยู่ในหัวเรามันมักจะไม่ใช่ tone ที่ลูกค้าต้องการ ทีนี้ลูกค้าก็จะบรีฟมาว่าอยากให้ได้เเบบนี้ๆอันนั้นเเหละคือโจทย์ที่ยากที่สุด

ไม่ใช่การออกเสียงหรือว่าการอะไรนะเเต่เป็นให้ลูกค้าพอใจมากที่สุดถ้าเราโชคดีเราจะได้สคริปมากก่อน ปกติเเล้วอะเราจะได้สคริปหน้างานเลยเข้าห้องปั๊บเขาก็วางอะนี้สคริปที่ต้องอ่านก็ต้องอ่านก่อนรอบนึง และตีความในใจลูกค้าก็จะให้เราดูหนังเขาก็โอเค เดี๋ยวคุณดาร์ทดูหนังก่อนนะพอดูเสร็จเราอยากจะได้เเบบtone เเบบนี้ตรงนี้อยากได้ขายของคำนี้อยากได้เน้น เราก็ต้องเเบบประมวลผลให้ได้เร็วที่สุดเเล้วเราก็ เเต่ส่วนใหญ่เเล้วอะเวลาเขาเลือกเสียงเราอะเขาอยากได้ tone เราอยู่เเล้วเเหละ

ในการพากย์เสียง งานเเต่ละชิ้นต้องทำอย่างไรบ้าง

ลูกค้าจะให้ดูภาพให้ดูหนัง เราดูสคริปเเล้วเราก็เริ่มตีความตามภาพตามสคริปครับ ทีนี้เสร็จ พอลูกค้าบรีฟ เราก็เริ่มอ่านไป บางทีมัน 30 วิ 15 วิเราสามารถอ่านไปได้ เราสามารถทำไปสักสองสาม tone ให้เขาเลือกก่อนได้ บางทีเขาก็จะบอกโอเค เออชอบ tone ที่สองนะ เราก็อาจจะอ่านโทนที่สองให้มันมีความเเตกต่างกันอีกสักนิดนึง ภายในสักครึ่งชั่วโมงเเรกอะไรอย่างเนี่ย

เราอาจจะเสร็จทุกสคริปเเล้ว บางทีมันอาจมีสองสามสคริปเนอะ บางทีสักครึ่งชั่วโมงเนี่ยเราอาจจะอ่านทุกสคริปเสร็จละ ลูกค้าเขาก็อาจจะ sound engineer เขาก็จะเอาไปวางกับภาพให้ลูกค้าดูว่าพออยู่กับภาพอยู่กับเพลงเเล้วมันเป็นเเบบนี้นะบางที่ลูกค้าไม่เข้า เขาก็เอามารวมกับภาพเเล้วก็ export ออกมาส่งให้ลูกค้า product ฟังลูกค้าก็จะ feedback กลับมา ถ้าโชคดีหน่อยลูกค้าจะบอกโอเคเอาเลย เเต่ถ้าไม่โอเคเราก็อยู่ไปเรื่อยๆ เเล้วก็จะทำซ้ำไปอย่างนี้ หรืออาจจะมีอ่านเผื่ออะไรอย่างเนี่ยนิดหน่อยอะครับ

ได้ค่าจ้างเท่าไหร่ เขาคิดเรทเป็นอย่างไร

ตอบยากนะคำถามเเบบนี้ก็มีตั้งเเต่หลักพันต่อเดือนนะ บางคนก็อาจจะได้เป็นหลักพัน หลักหมื่น หลักเเสนก็ได้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าเลือกเสียงเราไหม เเต่พอเสียงเรามันค่อยข้างติดตลาดไปเเล้วมันก็อาจจะการันตีหลักหมื่นอะไรอย่างนี้อะครับขึ้นไป

อาชีพนักพากย์เสียง มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

สำหรับผมเเล้วกันนะ ข้อดีคือผมได้ทำอาชีพที่ผมรัก ก็คือมันเป็นอาชีพที่เเบบเราได้เจออะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา เราได้พัฒนาสมองเราเนอะ เหมือนเราได้ตีโจทย์ใหม่ตลอดเวลาอะไรอย่างเนี่ย ส่วนข้อเสียจริงๆ เเล้วสำหรับผมมันไม่มีเลยผมรักอาชีพนี้มาก ผมชอบมากจริงๆ

อาชีพนักพากย์เสียงสบายมั้ย เพราะใช้เเค่เสียงเอง

ถ้าพูดว่าต้นทุนมันมีเเค่เสียงเเล้วมันสบายไหม ก็เหมือนจะสบาย เเต่อยากให้มองอยากให้คิดอีกมุมนึงว่า สมมติว่าเวลาเราขับรถ เราใช้รถเยอะๆ เนี่ยรถมันเสียเราก็เอาเข้าอู่ไปซ่อม อย่างมากเราก็ซื้อใหม่เเต่เสียงพอมันพังเเล้วอย่างเนี่ยครับมันก็ยากที่จะซ่อม เเล้วถ้ามันซ่อมไม่ได้มันก็จบเลย

ในการพากย์เสียง มีวิธีฝึกฝนตัวเองอย่างไร

อย่างเเรกคือเราต้องพักผ่อนให้เพียงพออยู่เเล้ว เพื่อให้ร่างกายมันซ้อมเเซมตัวมันเองอยู่ตลอดเวลาใช่ไหม เเล้วก็อีกอย่างนึงคือ ที่ผมจะพยายามไม่ทำเลยคือผมไม่จะตะโกนไม่อะไรอย่างเนี่ยเพราะว่าเวลาไปอ่านสปอตโฆษณาจริงๆ มันจะมีบางงานที่มัน Hard Sell จริงๆเเล้วผมต้องใช้เสียงหนักมากอะไรอย่างเนี่ย

เหมือนเราเก็บเเรงไว้ไปใส่ตรงนั้นดีกว่า โชคดีว่าเรียนเอก voice มาเราก็ต้องเราจะรู้วิธีวอร์มเสียง พอไปถึงหน้างาน เราเหมือนเเบบเสียงเรามันก็เหมือนพร้อมเเล้ว ตอนขับรถไปห้องอัดเราก็จะวอร์มเสียงไปด้วย เป่าปากหรืออาจจะร้องเพลงอะไรอย่างเนี่ยผมไม่รู้จะว่าคนอื่นเขาทำเหมือนผมรึป่าวเเต่สำหรับผม มันเหมือนกับว่าผมใช้วิธีนี้เเหละเหมือนก่อนจะออกคอนเสิร์ตอะไรแบบนี้

มันเหมือนเวลาเราตื่นนอนมาเเล้ว เราปวดหลังอะเพราะว่ากล้ามเนื้อมันล็อคอะเนอะกล้ามเนื้อหน้ามันก็เหมือนกันผมก็จะเเบบอ้าปาก อะไรอย่างเงี่ยให้เเบบโอเค ขยับกรามเเล้วก็จะเป่าปากริมฝีปากมันไม่เกร็ง ให้มันมีความ Flexible มากขึ้นคือเวลาเราอ่านปากก็จะไม่เเข็งลิ้นก็จะไม่เเข็งอะไรอย่างเนี่ยครับ

เคล็ดลับการเป็นนักพากย์เสียงต้องทำอย่างไร

สำหรับน้องๆ นะครับที่อยากจะมาเป็นนักพากย์เสียง หรือว่านักอ่านสปอตโฆษณานะ
คือเหมือนเเบบเราอยากเป็นนักบอลอะเราก็ต้องดูโรนัลโด้เราก็ต้องดูอะไรอย่างเนี่ย
learn from the best ใช่ไหมก็เหมือนกัน

ถ้าเราอยากเป็นนักอ่านสปอตโฆษณาเราก็ต้องเรียนเเบบมืออาชีพพวกโฆษณาที่อยู่ใน Youtube ก็อย่าไปกดสคริปอ่านตามซะ เราลอกเลียนเเบบเขาเเล้วเราได้วิธีเเล้ว ก็อย่างที่บอกเห็นบิลบอร์ดก็ลองใช้วิธีนั่นกับบิลบอร์ดดูหรือเเบบจะเป็นร้านอาหารตามสั่งอะไรอย่างนี้ก็ได้

งานที่ทำต้องใช้เสียงเยอะ มีวิธีดูเเลเสียงอย่างไร

จะใช้วิธีเเบบพูดให้น้อยที่สุดอะไรอย่างเนี่ย เหมือนเเบบเวลาเราปวดกล้ามเนื้อเราจะก็ไม่ใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นอะไรอย่างเนี่ยให้มันรักษาตัวเองก่อน

เป้าหมายสูงสุดของการทำอาชีพนักพากย์เสียงของคุณคืออะไร

คือก็อยากให้คนรู้จักเเหละ เเต่จริงๆ เเล้วเป้าหมายจริงๆ เเล้วคืออยากมีโอกาสได้ทำอาชีพนี้ไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เลยจนเเบบ จนตายเลยก็ได้อะไรอย่างเนี่ยอันนั้นคือความหวังอันยิ่งใหญ่ของเรา

ถ้าตอนนี้ไม่ได้เป็นนักพากย์โฆษณาคิดว่าตัวเองกำลังทำอาชีพอะไรอยู่

ก็คงยัง อย่างที่บอกก่อนหน้าจะเป็นคนอ่านสปอตโฆษณาเนี่ยผมเป็น sound engineer ทำโฆษณามาก่อนก็คงยังทำเป็น sound engineer ไปเรื่อยๆอาจจะทำเพลงบ้างอะไรอย่างนี้ครับ และผมก็ไม่เคยคิดจะเลิกทำอาชีพนี้เลยยังนึกไม่ออกว่าจะมีเหตุผลอะไรยกเว้นว่าเราอยู่ๆ วันนึงเราเสียงหายอะไรอย่างเนี่ย

อยากบอกอะไรกับคนที่อยากจะทำอาชีพนักพากย์เสียง

คือถ้าเรารู้ว่าเราชอบอะ ก็ลองลองสักตั้งนึง ไม่เกี่ยวว่าเราอายุเท่าไรอายุมากเเล้วไรเงี่ย คือเราอายุมากเเล้วก็จริง เเต่ว่าเราอาจจะมีชีวิตต่อไปอีกนานก็ได้ใช่มั้ยเราจะอยู่กับความคิดที่ว่าเราไม่ได้ทำในสิ่งที่เราชอบหรอถ้าเราชอบก็พยายาม ไม่ว่าจะยังไงก็ตามพยายามเเบบใช้ทุกวิธี

ช่องทางติดตามคุณดาร์ท

youtube : ดาร์ทเล่าเรื่องเสียง

IG : Yes.iam.dart

facebook : Yes iam Dart

TikTok : @dart14

ก็เต็มอิ่มกันพอสมควรกับดาร์ท ธนทร ศิริรักษ์ เรื่องราวกว่าจะมาเป็นนักพากย์เสียงโฆษณาที่พากย์มาแล้วนับร้อยนับพันเสียงนะครับ บทสัมภาษณ์เราจะเป็นใครก็คอยติดตามกันด้วยนะครับ

ติดตามข่าวสารจาก หมีสาระ

Facebook : www.facebook.com/mheesaradotcom/

Twitter : https://twitter.com/mheesara

 

บทความที่เกี่ยวข้อง